เมนู

แปรปรวนและเป็นอย่างอื่นไป วิญญาณจึงไม่มีความหมุนเวียนไปตาม
ความแปรปรวนแห่งวิญญาณ ความสะดุ้งและความบังเกิดขึ้นแห่งธรรม
ที่เกิดแต่ความหมุนเวียนไปตามความแปรปรวนแห่งวิญญาณ ย่อม
ไม่ครอบงำจิตของอริยสาวกนั้นตั้งอยู่ เพราะจิตไม่ถูกครอบงำ
อริยสาวกนั้นย่อมไม่มีความหวาดเสียว ไม่มีความลำบากใจ ไม่มี
ความห่วงใย และไม่สะดุ้ง เพราะไม่ถือมั่น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ความไม่สะดุ้งเพราะความไม่ถือมั่น ย่อมมีอย่างนี้แล.
จบ อุปาทานปริตัสสนาสูตรที่ 7

อรรถกถาอุปาทานปริตัสสนาสูตรที่ 7



ในอุปาทานปริตัสสนาสูตรที่ 7 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้
บทว่า อุปาทานปริตสฺสนํ ได้แก่ ความสะดุ้งที่เกิดขึ้นเพราะ
ความยึดถือ. บทว่า อนุปาทานอปริตสฺสนํ ได้แก่ ความไม่สะดุ้งที่เกิดขึ้น
เพราะความไม่ยืดถือ. บทว่า รูปวิปริณามานุวตฺติ ความว่า กรรมวิญญาณ
ย่อมเป็นธรรมชาติหมุนเวียนไปตามความแตกแห่งรูปโดยนัยเป็นต้นว่า
รูปของเราแปรไปแล้วดังนี้ หรือว่ารูปนี้ได้เคยมีแก่เราแล้ว มาบัดนี้
รูปนี้ไม่มีแก่เราหนอดังนี้ บทว่า วิปริณามานุปริวตฺติ ได้แก่ อันเกิดแต่จิต
ที่มีความแปรปรวนเป็นอารมณ์โดยหมุนเวียนไปตามรูปที่แปรปรวนไป.
บทว่า ปริตสฺสนาธมฺมสมุปฺปาทา ได้แก่ ความสะดุ้งเพราะตัณหาและ
ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งอกุศลธรรม. บทว่า จิตฺตํ ได้แก่ กุศลจิต. บทว่า
ปริยาทาย ติฏฺฐนฺติ ได้แก่ ครอบงำตั้งอยู่. บทว่า อุตฺตาสวา ได้แก่

มีความสะดุ้ง. บทว่า วิฆาตวา ได้แก่ มีความคับแค้นคือมีความทุกข์.
บทว่า อเปกฺขวา ได้แก่ มีความอาลัย. บทว่า อุปาทาย จ ปริตสฺสติ ได้แก่
เป็นผู้ชื่อว่า สะดุ้งเพราะยึดถือ. บทว่า น รูปวิปริณามานุปริวตฺติ ได้แก่
กรรมวิญญาณนั่นแหละไม่มีแก่พระขีณาสพ เพราะฉะนั้น การพูดว่า
ความหมุนเวียนไปตามความแตกแห่งรูป ย่อมไม่มี ดังนี้จึงถูกต้อง.
จบ อรรถกถาอุปาทานปริตัสสนาสูตรที่ 7

8. อุปาทานปริตัสสนาสูตรที่ 2



ว่าด้วยความสะดุ้งและไม่สะดุ้ง



[34] กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราจัก
แสดงความสะดุ้งเพราะความถือมั่น และความไม่สะดุ้งเพราะความไม่
ถือมั่นแก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่ใจให้ดีเราจักกล่าว ฯลฯ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ความสะดุ้งเพราะความถือมั่น ย่อมมีอย่างไร
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้วในโลกนี้ ย่อมตามเห็นรูปว่า
นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา รูปของเขานั้น ย่อม
แปรปรวน ย่อมเป็นอย่างอื่นไป เพราะรูปแปรปรวนและเป็นอย่างอื่นไป
โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาสจึงเกิดขึ้น ย่อมเห็นเวทนาว่า
นั่นของเรา ฯลฯ ย่อมเห็นสัญญาว่า นั่นของเรา ฯลฯ ย่อมเห็นสังขาร
ทั้งหลายว่า นั่นของเรา ฯลฯ ย่อมเห็นวิญญาณว่า นั่นของเรา เราเป็นนั่น
นั่นเป็นตัวตนของเรา วิญญาณของเขานั้น ย่อมแปรปรวน ย่อมเป็น
อย่างอื่นไป เพราะวิญญาณแปรปรวนและเป็นอย่างอื่นไป โสกะ